วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Assignment #4 สายสัญญาณ

คำถาม

พิจารณาจากเงื่อนไขต่อไปนี้ พร้อมให้เหตุผลประกอบว่าเหตุใดควรเลือกใช้การเชื่อมต่อแบบใยแก้วนำแสงหรือแบบสายทองแดง




    ·       ต้องการความเร็วในการเชื่อมต่อเครือข่ายสำหรับเครื่อง Desktop
   
ตอบ     ควรเลือกใช้สายสัญญาณแบบทองแดง เพราะ สามารถส่งผ่านสัญญาณได้ทั้งแบบ Analog         
             และ Digital  เป็นที่นิยมมากในระบบการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์ การส่งสัญญาณ
             Digital สามารถรองรับการส่งผ่านข้อมูลที่อัตราเร็วสูงได้ ซึ่งอยู่ในช่วง10 – 100 เมกะบิต
             ต่อวินาที  

   ·       ต้องการให้ประสิทธิภาพในการเชื่อมต่อระหว่างวงแลนมีความเร็วสูง

ตอบ     ต้องใช้สายเคเบิลใยแก้วนำแสง เพราะ เป็นสายสัญญาณที่ถือว่าเป็นสายสัญญาณที่มี
             ความเร็วสูงที่สุดในการเชื่อมต่อด้วยสายสัญญาณแบบอื่นๆ และมีความเร็วใกล้เคียง
             กับความเร็วแสงมาก เนื่องจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าไม่สามารถรบกวนการรับส่งข้อมูล
            ได้ ซึ่งความเร็วในขณะนี้จะถูกกำจัดด้วยความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลของตัวอุปกรณ์เอง

     ·       ระยะทางที่สายสัญญาณเดินทางผ่านต้องผ่านเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้า

ตอบ     ควรเลือกใช้การเชื่อมต่อแบบใยแก้วนำแสง เพราะ สายสัญญาณแบบใยแก้วนำแสง
            ช่วยตัดปัญหาเรื่องการรบกวน  จากสัญญาณไฟฟ้าได้สูง ดังนั้นสัญญาณรบกวนทาง
            ไฟฟ้า  ซึ่งเกิดจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้า จึงไม่มีผลกระทบต่อการรับส่งข้อมูลของสาย
             สัญญาณประเภทนี้   นอกจากนี้สายสัญญาณแบบใยแก้วนำแสงยังเป็นฉนวนทั้งหมด
             จึงไม่นำกระแสไฟฟ้า ทำให้ไม่เกิดการลัดวงจร หรืออันตรายจากกระแสไฟฟ้าเมื่อ
             สายสัญญาณเดินทางผ่านต้องผ่านเครื่องกำเนิดพลังงานไฟฟ้า


      ·       ต้องการระบบที่ง่ายต่อการตรวจสอบและซ่อมบำรุงกรณีเกิดปัญหาการเชื่อมต่อ
        
ตอบ    ถ้าต้องการระบบที่ง่ายต่อการตรวจสอบและซ่อมบำรุง กรณีเกิดปัญหาการเชื่อมต่อ
            ควรเลือกใช้แบบสายทองแดง เพราะเนื่องจากราคาของสายทองแดงและค่าติดตั้ง
            ไม่สูงมากเมื่อเทียบกับสายสัญญาณแบบใยแก้วนำแสงและยังสามารถทำงานร่วม
             กับระบบการเชื่อมต่อแบบดั้งเดิมโดยไม่ต้องมีการปรับแต่งเพิ่มเติมมาก

    ·       รองรับการเพิ่มจุดการเชื่อมต่อสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ notebook เพิ่มเติมอย่างน้อย 4 เครื่อง

ตอบ      ควรเชื่อมต่อโดยใช้สายโคแอกเชียล เพราะ สายโคแอกสามารถส่งสัญญาณได้
              ทั้งในช่องทางแบบเบสแบนด์และแบบบรอดแบนด์ การส่งสัญญาณในเบสแบนด์
              สามารถทำได้เพียง 1 ช่องทางและเป็นแบบครึ่งดูเพล็กซ์ แต่ในส่วนของการส่ง
              สัญญาณในบรอดแบนด์จะเป็นเช่นเดียวกับสายเคเบิลทีวี คือ สามารถส่งได้พร้อม
              กันหลายช่องทาง ทั้งข้อมูลแบบดิจิตอลและแบบอนาล็อก   สายโคแอกสามารถ
              มีช่องทาง (เสียง) ได้ถึง 10,000 ช่องทางในเวลาเดียวกัน อัตราเร็วในการส่งข้อมูล
              มีได้สูงถึง 50 เมกะบิตต่อวินาที หรือ 800 เมกะบิตต่อวินาที ถ้าใช้เครื่องทบทวน
             สัญญาณทุก ๆ 1.6 กม.  ดังนั้นึงเหมาะกับการรองรับการเพิ่มจุดเชื่อมต่อหลายๆ
             จุดเนื่องจากมีอัตราเร็วในการส่งข้อมูล






วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

Assignment#3

ใช้ เน็ต อย่างไรให้ปลอดภัย




1.) ไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัว เช่นชื่อนามสกุลจริง ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ ชื่อโรงเรียน
2.) ไม่ส่งหลักฐานส่วนตัวของตนเองและคนในครอบครัวให้ผู้อื่น
3.) ไม่ควรโอนเงินให้ใครอย่างเด็ดขาด นอกจากจะเป็นญาติสนิทที่เชื่อใจได้ จริงๆ
4.) ไม่ออกไปพบเพื่อนที่รู้จักทางอินเตอร์เน็ต เพื่อป้องกันการลักพาตัว หรือการกระทำมิดีมิร้ายต่างๆ
5.) ระมัดระวังการซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ต รวมถึงคำโฆษณาชวนเชื่ออื่นๆ
6.) ควรบอกพ่อแม่ผู้ปกครองหรือคุณครู ถ้าถูกกลั่นแกล้งทางอินเตอร์เน็ต เช่น ได้รับอีเมลหยาบคาย
หรือถูกนำรูปถ่ายไปตัดต่อสร้างความเสียหาย
7.) ระลึกอยู่เสมอว่า บุคคลที่เรารู้จักทางเว็บอาจจะเป็นบุคคลที่ไม่พึงประสงค์
8.) ระวังตัวทุกครั้งที่มีการลงทะเบียนสมัครสมาชิกกับเว็บต่างๆ เพราะเราอาจกำลังตกอยู่ในสายตาของ
ผู้ไม่ประสงค์ดี ที่กำลังจับตามองอยู่
9.) ถ้าคนมาชวนสร้างรายได้ โดยทำธุรกรรมผ่านทางเว็บ ให้คิดเสมอว่ารายได้ที่สูงเกินความจริง อาจตกอยู่
กลลวงของผู้ประสงค์ร้าย
10.) ไม่ควรเข้าเว็บที่ต้องห้าม หรือเว็บที่มีการนำเสนอภาพรุนแรง


อิทธิพลของSocial media กับ Traditional media ในยุคปัจจุบัน




Social media คือ การสื่อสารส่งข้อมูลข่าวสารในรูปแบบใหม่ที่มีการสื่อสารผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งสามารถสื่อสารได้ 2 ทาง เช่น facebook  e-mail  youtube
Traditional media คือ การสื่อสารส่งข้อมูลในรูปแบบเดิมที่ไม่ผ่านระบบอินเตอร์เน็ท ซึ่งเป็นการสื่อสารทางเดียว เช่น ทีวี วิทยุ สิ่งพิมพ์


          ในปัจจุบัน socail media เข้ามามีอิทธิพลต่อมนุษย์มากยิ่งขึ้น เพราะในยุคนี้ผู้คนส่วนใหญ่ต่างมีคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตใช้กันทุกบ้าน social media มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของเราในทุกๆวัน เช่น


- การตื่นเช้ามาอย่างแรกที่จะทำคือการเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อเช็ค facebook หรือข่าวสารต่างๆ
- การโฆษณาทาง social media มีอัตราการเติบโตมากขึ้นเรื่อยๆ
- หนังสือพิมพ์เกือบทุกฉบับในประเทศไทย ให้บริการ News Content และมีเนื้อที่สำหรับการโฆษณาออนไลน์ด้วย หรือจะอ่านหนังสือพิมพ์แบบ e-Newspaper ได้โดยผ่าน Digital Device ต่างๆ
-โทรทัศน์ก็สามารุถเข้าไปชมรายการย้อนหลังได้จากเว็บไซต์ช่องต่างๆ เราสามารถเลือกดูรายการที่เราพลาดชม หรือเลือกดูรายการโปรดได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะพลาดตอนจบของดอกส้มสีทอง
-วิทยุก็กลายเป็นโทรทัศน์หรือเป็นเคเบิลทีวี เราสามารถฟังรายการวิทยุจากเว็บไซต์ หรือชมผ่านโทรทัศน์ก็ได้ ในขณะเดียวกันโทรทัศน์เองก็รายงานข่าวทั้งโทรทัศน์เองด้วยและก็ออกอากาศทางวิทยุ รวมถึงสามารถชมรายการสดๆทางอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย

          จากตัวอย่างต่างๆพบว่า อัตราการเติบโตใน Social Media มีสูงกว่าสื่อ Traditional Media





Weblog มีประโยชน์อย่างไรกับแวดวงธุรกิจในปัจจุบัน
         



             ปัจจุบันนี้ บริษัทชั้นนำต่างๆ ของโลก ได้หันมาจับตามอง Blog ซึ่งเป็นรูปแบบของการ Marketingแบบใหม่เนื่องจาก Blogger จะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้อ่าน Blog สูงมาก เนื่องจากทั้งสองสามารถโต้ตอบกันได้โดยตรง    การที่ใช้ Blog มาเป็นเครื่องมือทางการตลาดนั้น อาจเรียกได้ว่าเป็น Buzz Marketing บางบริษัทอาจเลือกเจ้าของ Blog ให้เป็น presenter ให้กับผลิตภัณฑ์ของตนเอง เช่นเสนอสินค้า ให้เจ้าของ Blog นำไปเขียนวิจารณ์หรือเขียนถึงใน Blog ของตน เป็นต้น  บางบริษัทใช้ Blog เพื่อเป็นเครื่องมือสื่อสาร หรือ PR ข่าวสารขององค์กร โดยการใช้ Blog เพื่อประกาศข่าวสารนั้นจะดูมีความเป็นกันเองและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างเป็นมิตร เพราะเนื่องจากลูกค้าสามารถฝากcomment หรือสื่อสารกับเจ้าของ Blog ได้ทันที ทำให้บริษัทเอง จะได้ประโยชน์จากคำแนะนำที่ตรงไปตรงมาของลูกค้าอีกด้วย บริษัทชั้นนำต่างเลือกที่จะใช้ Blog มาเป็นเครื่องมือทางการตลาดกันแล้ว โดยบางแห่งใช้ทั้งBlog อย่างเป็นทางการของบริษัท แถมยังเปิดให้พนักงานได้เขียน Blog ของตนเองอีกด้วย โดยวิธีการนี้นับเป็นการทำการตลาดโดยการสร้างการรับรู้ตราสินค้า (Brand) โดยทางอ้อมอีกด้วย

Google Apps คืออะไร? มีประโยชน์และการใช้งานอย่างไร?


                เป็นบริการจาก Google ที่อาศัยการปรับแต่งค่าโดเมนของเราเพื่อใช้งานโปรแกรมต่างๆของ Google อาทิเช่น Gmail , Calendar ,Docs , Talk และ Sites ซึ่งรายละเอียดของโปรแกรมต่างๆ ใน Google Apps มีดังนี้

       Gmail  :  เป็นการให้บริการอีเมล์ของ Google ถูกพัฒนาขึ้นมาเมื่อปี ค.ศ 2006 โดยในช่วงแรกของการเปิดให้บริการจะให้บริการเฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น ยังไม่มีการเปิดให้บริการฟรีเหมือนกับในปัจจุบัน และให้พื้นที่การใช้งานที่เยอะมาก ซึ่งถือได้ว่าเยอะที่สุดในตอนนั้นคือ 2 GB โดย Gmail รองรับการใช้งานทั้ง POP3 และ IMP สามารถทำงานได้ทั้งบนเว็บไซต์ http://gmail.com และบนเครื่อง PC โดยใช้โปรแกรม Mail Client เช่น Outlook,Tunderbird เป็นต้น


Google Calendar  : เป็นโปรแกรม Calendar ออนไลน์ทำงานบนเว็บไซต์โดยผู้ใช้งานสามารถสร้างตารางงาน หรือตารางนัดหมายงานของตัวเองได้


Google Docs  : นั้นเป็นที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน Google Docs เป็นการนำโปรแกรมประเภท Word Processing และ Spreadsheet ไปไว้บนเว็บไซต์ ผู้ใช้งานสามารถสร้างเอกสาร Word หรือ Excel เหมือนกับโปรแกรม Word และ Excel ของ Microsoft ได้ นอกจากนั้นยังสามารถ Export ให้เป็นไฟล์ PDF ได้อีกด้วย โดยไฟล์เอกสารต่างๆที่เราสร้างขึ้นจะถูกเก็บไว้ที่เว็บไซต์ของ Google


google Talk  :  เป็นโปรแกรมสำหรับใช้สนทนากันผ่านระบบเครือข่ายอิเทอร์เน็ต เหมือนกับโปรแกรม Yahoo , MSN
Google Site  :  เป็นบริการสร้างหน้าเว็บไซต์ออนไลน์ ผู้ใช้งานสามารถสร้างเว็บไซต์ของตัวเองขึ้นมาใช้งานได้ ซึ่งจะมี Template ต่างๆให้เราได้เลือก การใช้งานก็เหมือนกับการสร้างเว็บบล็อกทั่วๆไป






ประโยชน์และการใช้งาน
Google Apps เป็นการรวมบริการ Email + Docs and Spreadsheets + Chat + Calendar เข้าไว้ด้วยกันทำให้ชีวิตของเราสามารถทำงานทุกอย่างได้บน Web ของ Google
Email

          เนื่องจาก Scriptdd เป็น Domain ที่มีอายุเกือบ 6 ปีแล้ว ปัญหาของมันคือ จะโดน Spam Email จากทั่วโลก
เข้า
Email ที่ใช้งานไม่ต่ำกว่า วันละ 200 ฉบับ วันๆก็มานั่งเช็คลบ Spam mail ออกจาก Server มันเป็นเรื่องที่ไม่ขำเลยพอย้ายเข้ามาใช้ระบบของ Google Apps สิ่งที่เกิดขึ้นคือมีความสามารถในการ Filter Spam ที่สุดยอดมาก ไม่มี Spam mail หลุดเข้ามาในส่วน Inbox เลย (จากรูปจะเห็น Spam วิ่งไปกองอยู่ที่เดียวกัน ฟ้องด้วยภาพกันเลย)  บวกกับพื้นที่อันมหาศาลที่คุณไม่มีทางหาได้จากการเช่าพื้นที่ Hosting วาง Website

เวลาคุณเลือกซื้อ
Hosting เค้าจะบอกว่า ให้คุณ Add Email ได้ไม่จำกัด แต่ความเป็นจริง จำนวน Email ที่คุณ Add ได้จะถูกลบไปจากพื้นที่ Website ที่คุณซื้อ   เช่นถ้าคุณซื้อ Hosting 200M แล้วคุณ Add Email ไว้ 2 email email ละ 50M ผลก็คือ คุณจะเหลือพื้นที่ทำ Website แค่ 100M เท่านั้น    Email ของ Google Apps นั้นสามารถใช้ POP3 ดึง Email ได้ฉะนั้นคุณจึงสามารถใช้พวก Thunderbird หรือ Outlook ดึง Mail ได้ตามปกติ

Docs and Spreadsheets



Spreadsheets สามารถตั้งให้ Share File กันได้

Chat



             Chat ของ Google Apps ก็คือ Google talk นั้นแหล่ะคุณสามารถใช้ @yourdomain.com เล่น Google talk ได้เลยโดยสามารถเอาไปคุยกับคนอื่นๆที่ใช้@gmail ได้ทั้งหมด


Calendar




สามารถ Share ตารางร่วมกันกับเพื่อนร่วมงานของเราได้


วิธีการเริ่มใช้งาน




หน้าแรก ของ Google Apps คลิกที่ Get Started เพื่อลงทะเบียน




เลือกประเภทบริการ เอาตามสะดวก



ถ้าคุณมี Domain อยู่แล้วก็เลือกแบบ i already have a domain ได้เลย




เลือกจำนวน Email ที่ต้องการใช้และกรอกรายละเอียดข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน



กรอกรายละเอียด Admin ของ Domain



เมื่อกรอกข้อมูลทุกอย่างครบแล้วคุณจะได้สิทธิ Admin สามารถจัดการ Domain ในส่วนต่างๆได้ จะเห็นว่าทุกๆ Service จะ Not Active ให้คุณเริ่มทำการ Verity domain ownership ก่อน เพื่อยืนยันกับทาง Google ว่าคุณเป็นเจ้าของ Domain จริงๆ



การยืนยันสามารถยืนยันได้ 2 แบบ คือ ให้ Upload html ขึ้นไป หรือให้เข้าไปแก้ Code หน้าแรกของ Website เลือกซักแบบและทำตามขั้นตอน




เมื่อยืนยันแล้วระบบจะเริ่ม Update เปิด Service ให้ยกเว้น Email ให้คลิกไป Active email เพื่อเปิดใช้งาน Email



ระบบจะแจ้งให้คุณ Update MX Record ให้ชี้มาหา Google เพื่อให้ใช้งาน Email ได้
สิ่งที่คุณต้องทำคือ ให้อ่านรายละเอียด ใน
Instructions on how to activate email

ในนั้นจะระบุให้คุณ ย้าย
MX Record มาที่
ASPMX.L.GOOGLE.COM.
1
ALT1.ASPMX.L.GOOGLE.COM.
5
ALT2.ASPMX.L.GOOGLE.COM.
5
ASPMX2.GOOGLEMAIL.COM.
10
ASPMX3.GOOGLEMAIL.COM.
10
ASPMX4.GOOGLEMAIL.COM.
10 ASPMX5.GOOGLEMAIL.COM. 10




แค่นี้ระบบ Google Apps ก็พร้อมใช้งานสำหรับ Domain ของคุณแล้วรอแค่ 48 ชมให้ MX Records ชี้มาให้ Google


Cloud Computing คืออะไร?มีประโยชน์อย่างไรกับธุรกิจในปัจจุบัน?


               คือวิธีการประมวลผลที่อิงกับความต้องการของผู้ใช้ โดยผู้ใช้สามารถระบุความต้องการไปยังซอฟต์แวร์ของระบบCloud Computingจากนั้นซอฟต์แวร์จะร้องขอให้ระบบจัดสรรทรัพยากรและบริการให้ตรงกับความต้อง การผู้ใช้ ทั้งนี้ระบบสามารถเพิ่มและลดจำนวนของทรัพยากร รวมถึงเสนอบริการให้พอเหมาะกับความต้องการของผู้ใช้ได้ตลอดเวลา โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องทราบเลยว่าการทำงานหรือเหตุการณ์เบื้องหลังเป็นเช่นไร


ประโยชน์ต่อธุรกิจในปัจจุบันคือ 


ทรัพยากรไอทีถูกใช้อย่างคุ้มค่า
          เนื่องจากเป็นการแบ่งปัน (Share) ทรัพยากรทั้งส่วนจัดเก็บข้อมูล แอพพลิเคชั่น และการประมวลผลบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต จึงเกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of scale) กล่าวคือดังนั้นผู้ให้บริการจึงสามารถนำเสนอบริการแอพพลิเคชั่นในราคาที่ต่ำ กว่ากรณีที่ผู้ใช้จะลงทุนติดตั้งแอพพลิเคชั่นเพื่อใช้งาน
นอกจากนี้ยังมีความสามารถในการปรับลด/ขยายขนาดของประสิทธิภาพของระบบประมวลผลได้ตามลักษณะการใช้งานจริง ผู้ใช้จึงไม่จำเป็นต้องลงทุนเพื่อติดตั้งระบบไอทีเพื่อสำรองการใช้งานในบางช่วงเวลา แต่สามารถเรียกใช้ความสามารถจากผู้ให้บริการ สำหรับผู้ให้บริการการสำรองความสามารถไว้ให้บริการจะสามารถแบ่งปันความสามารถดังกล่าวให้แก่ลูกค้าหลายรายจึงเกิดการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม

ผู้ใช้มีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีได้มากขึ้น
          โดยอัตราค่าบริการด้านไอทีผ่านสภาพแวดล้อมกลุ่มเมฆ จะต่ำกว่าการลงทุนติดตั้งระบบไอทีเองทั้งหมด จึงมีโอกาสที่จะเข้าถึงเทคโนโลยีที่หลากหลาย ตลอดจนเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้มากกว่าในสภาพแวดล้อมแบบเดิม ทั้งนี้ในกรณีที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ผู้ให้บริการมีความยืดหยุ่นที่จะนำเทคโนโลยีใหม่มาให้บริการบนสถาปัตยกรรม SOA (Service-oriented architecture)

ผู้พัฒนาเทคโนโลยีไอทีมีโอกาสให้นำผลงานออกสู่ตลาดได้มากขึ้น

          บนสถาปัตยกรรมที่แยกเซิร์ฟเวอร์ในส่วนของแอพพลิเคชั่น ทำให้แอพพลิเคชั่นบนเครือข่ายมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนบนเครือข่าย ผู้ให้บริการจะกำหนดแพลทฟอร์มของแอพพลิเคชั่นบนกลุ่มเมฆของตน เช่นแพลทฟอร์มสำหรับ Google App Engine เพื่อเป็นมาตรฐานสำหรับผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นสามารถนำผลงานไปให้บริการบนกลุ่มเมฆ โดยการเพิ่มบริการแอพพลิเคชั่นจะไม่กระทบในส่วนของผู้ใช้

ผู้ให้บริการสามารถบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ
          บริการถูกนำเสนอบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ดังนั้น ผู้ให้บริการสามารถติดตั้งอุปกรณ์ในทำเลที่ตั้งที่ห่างไกลซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าการตั้งกิจการในย่านธุรกิจ แต่สามารถนำเสนอบริการให้แก่ลูกค้าได้ทั่วโลก อีกทั้งหน่วยจัดเก็บข้อมูล ส่วนประมวลผล และแอพพลิเคชั่น ถูกแยกออกจากส่วนผู้ใช้ ดังนั้นผู้ให้บริการจึงสามารถดูแลรักษาระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ









Assignment#2 เทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานอินเทอร์เน็ต

วิธีป้องกันไม่ให้ไฟล์ขยะตกค้างหลังเล่นเน็ต
          ทุกครั้งที่เข้าไปท่องอินเตอร์เน็ตจะพบว่าเครื่องคอมพิวเตอร์เน็ตมักจะชอบเก็บเอาไฟล์ขยะต่าง ๆ มาเก็บไว้ในเครื่องทำให้สิ้นเปลืองเนื้อที่ ฮาร์ดดิสก์ ซึ่งเราสามารถที่จะเข้าไปลบไฟล์ขยะเหล่านั้นทิ้งไปได้ดังนี้
1. เข้าไปโปรแกรม IE คลิกเมนู Tools เลือกคำสั่ง Internet Options
2. ที่หน้าต่าง Internet Options คลิกแท็บ Advanced เลื่อนเมาส์ มาที่ตำแหน่งไอคอน Security แล้วติ๊กถูก หน้าช่อง Empty Temporary Internet File foder when browser closed จากนั้นคลิกปุ่ม Apply แล้วคลิกปุ่ม OK
3. หลังจากนั้น เมื่อเราเข้าสู่โปรแกรม IE ไฟล์ขยะที่เครื่องแอบเก็บไว้ชั่วคราว จะถูกลบออกไป พร้อมกับคืนเนื้อที่ให้ ฮาร์ดดิสก์ ได้อีกด้วย

เล่นเน็ต offline โดยใช้ Favorite
          เราเคยใช้ favorites เก็บชื่อเว็บโปรดไปแล้วคราวนี้ลองมาทำให้เข้าเว็บโปรดได้บ่อย ทุกครั้งที่ต้องการ ถึงจะ offline อยู่


1. เปิด Internet Explorer ขึ้นมาแล้วท่องเว็บไปตามปกติ จนเจอเว็บถูกใจ เช่น numwan.com (http://www.numwan.com/) เป็นต้น
2. คลิก Favorites --> Add to Favorites...
3. ในช่อง Name ให้พิมพ์ชื่อย่อ ที่คิดว่าคราวหน้าจะจำได้ เช่น กรณีอยากจะ add เว็บนี้ ก็พิมพ์คำว่าอะไรก็ได้ที่จำได้ หรือ numwan.com
4. เช็คเครื่องหมายถูกตรง Make available offline
5. คลิกที่ Customize ...
6. หน้าต่าง Offline Favorites Wizard จะปรากฎขึ้น คลิก Next
7. หน้าต่างนี้จะถามว่าต้องการจะให้ link หน้าอื่นด้วยมั้ย ถ้าต้องการก็คลิก yes ถ้าไม่ก็ no
8. ถ้า คลิก yes จะมีให้เลือกอีกว่าจะเอาลึกลงไปกี่ link สูงสุดได้ถึง 3 links ครับ
9. คลิก Next อีก 2 ครั้ง แล้ว Finish ก็เป็นอันเรียบร้อย


วิธีใช้ google แบบมืออาชีพ
1.Google ใช้ and (และ) ในประโยคเสมอ เช่น ค้นหา harvest moon back to nature สำหรับ Google จะค้นหาแบบแยกคำ harvest AND moon AND...


2.การใช้ or (หรือ) คือให้หาข้อมูลมากขึ้นจากคำ A และ B นำผลที่ได้มารวมกัน พิมพ์ or ด้วยตัวใหญ่ระหว่างคำ เช่น vacation london OR paris คือหาทั้งในลอนดอนและปารีส


3.Google จะละคำทั่วไป (the, to, of) และอักษรเดี่ยว เพราะทำให้ค้นหาช้าลง แต่ถ้าคำนั้นช่วยให้หาข้อมูลง่ายขึ้นก็ใช้เครื่องหมาย + ข้างหน้า (เว้นวรรคก่อน) เช่น back +to nature


4.กันขอบเขตการค้นหาให้เล็กลงได้ด้วยการใช้ Advanced Search (หรือการค้นหาแบบพิเศษ ใน Google ไทย)


5.Google สามารถตัดคำพ้องรูปได้โดยใช้เครื่องหมาย - ช่วย โดยการนำไปอยู่คำที่จะตัด เช่น bass มี 2 ความหมายคือเกี่ยวกับปลาและดนตรี จะตัดที่มีความหมายเกี่ยวกับดนตรีออก ก็พิมพ์ bass -music


6.การค้นหาแบบทั้งวลี (คือค้นหาทั้งกลุ่มคำ) ให้ใช้เครื่องหมาย "..." เช่น "Breath of fire IV"


7.Google แปลเว็บภาษาอิตาเลียน, ฝรั่งเศส, สเปน, เยอรมัน และโปรตุเกส เป็นภาษาอังกฤษได้ โดยคลิก "Translate this page" ด้านข้างชื่อเว็บ
8.สามารถหาไฟล์ในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่ HTML ได้ อาทิ Adobe Portable Document Format (นามสกุลของไฟล์ pdf) Text (นามสกุลของไฟล์ ans หรือ txt) วิธีใช้ filetype:นามสกุลของไฟล์ เช่น "Chrono Cross" filetype:pdf หมายความว่าเอกสารของ Chrono Cross ที่เป็น PDF ทั้งนี้ยังมีความสามารถดูไฟล์เหล่านั้นในรูปแบบ HTML ได้ โดยคลิก View as HTML (หรือ รูปแบบ HTML ใน Google ภาษาไทย)


9..สามารถเก็บ Cached ของเว็บที่จะเข้าชมไว้ได้ โดยคลิกที่ Cached (หรือ ถูกเก็บไว้ ใน Google ภาษาไทย) ช่วยให้สามารถเข้าบางเว็บที่โดนลบไปแล้วโดยข้อมูลที่ได้เป็นข้อมูลก่อนถูกลบ (ใหม่สุดที่มันจะมีได้)10.Google สามารถค้นหาหน้าที่คล้ายกัน โดยคลิก Similar pages (หรือ หน้าที่คล้ายกัน ใน Google ภาษาไทย) จะค้นหาข้อมูลที่คล้ายๆ กันให้มากมายในเวลาที่รวดเร็วโดยไม่ต้องห่วงเรื่อง keyword
10.ค้นหา link ที่เชื่อมไปเว็บนั้นได้ วิธีใช้ link:ชื่อ URL เช่น link:www.google.com


11.ค้นหาเว็บจำเพาะเจาะจงได้ เช่น ต้องการหาเว็บเกี่ยวกับเข้ามหาวิทยาลัย Stanford ให้พิมพ์ admission site:www.stanford.edu


12.มีบริการการค้นหาด่วน โดยนำเว็บที่อยู่ลำดับแรกของการค้นหาส่งให้เลย เช่น ต้องการค้นหาเว็บมหาวิทยาลัย Stanford ด่วน พิมพ์ Stanford แล้วกด I"m Feeling Lucky (หรือ ดีใจจัง ค้นแล้วเจอเลย ใน Google ภาษาไทย)

ความหมายของคำ


Browser

คือเครื่องมือที่ช่วยให้คุณสามารถท่องเที่ยวไปในโลกอินเตอร์เน็ตได้อย่างไร้ขีดกั้นทางด้านพรมแดน นอกจากนี้ Browser ยังช่วยอำนวยความสะดวกในการเยี่ยมชมเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งในขณะนี้บริษัทผลิตซอฟแวร์ค่ายต่างๆ นับวันจะทวีการแข่งขันกันในการผลิต Browser เพื่อสร้างความพึงพอใจให้แก่นักท่องเว็บให้มากที่สุด หน้าตาของ browser แตกต่างกันไปตามแต่การออกแบบการใช้งานของแต่ละค่ายโปรแกรม  โปรแกรม Browser ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน ได้แก่ Internet Explorer และ Nescape Navigator        

Client

คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไปร้องขอบริการและรับบริการอย่างใดอย่างหนึ่งจาก Server

Domain Name Server (DNS)

            คือสิ่งที่นำมาอ้างถึงหมายเลขเครื่อง หรือ หมายเลข IP Address เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ DNS จะทำหน้าที่คล้ายกับสมุดโทรศัพท์ คือ เมื่อมีคนต้องการจะโทรศัพท์หาใคร คน ๆ นั้นก็จะต้องเปิดสมุดโทรศัพท์เพื่อค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของคนที่ต้องการจะติดต่อคอมพิวเตอร์ก็เช่นกัน เมื่อต้องการจะสื่อสารกับคอมพิวเตอร์เครื่องอื่น เครื่องนั้นก็จะทำการสอบถามหมายเลข IP ของเครื่องที่ต้องการจะสื่อสาร กับ DNS server ซึ่งจะทำการค้นหาหมายเลขดังกล่าว ในฐานข้อมูลแล้วแจ้งให้ Host ดังกล่าวทราบ

Download

คือการโอนย้ายไฟล์หรือข้อมูลจากที่หนึ่งไปอีกทีหนึ่ง เช่น การโอนไฟล์หรือว่าข้อมูลมาจาก อินเตอร์เนต หรือว่า จากคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ เข้ามาบันทึกเอาไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา

E-Mail

คือ บริการกล่องจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ให้ผู้ใช้สามารถรับ และส่งอีเมลในอินเทอร์เน็ต เพื่อประโยชน์ด้านการสื่อสาร ปัจจุบันบริการอีเมลผ่าน Web-Based Mail ได้รับความนิยมอย่างมาก จึงมีหลายบริษัทเปิดให้บริการฟรีอีเมล เช่น hotmail.com, yahoo.com, thaimail.com, chaiyo.com, lampang.net, thaiall.com บริการอีเมลที่ได้รับความนิยมมี 2 ประเภทคือ Web-Based Mail และ POP3 บริการแบบ POP3 นั้นผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดอีเมลจากเครื่องบริการเมลไปเก็บไว้ในเครื่องของตน จึงเปิดอ่านอีเมลเก่าได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต เหมาะกับผู้ใช้ในสำนักงานที่มีเครื่องเป็นของตนเอง โปรแกรมที่ใช้เปิดอีเมลแบบ POP3 เช่น Outlook Express, Eudora หรือ Netscape Mail เป็นต้น

Freeware

ซอฟต์แวร์ที่สร้างขึ้นและสามารถนำไปใช้ได้ในทุกจุดประสงค์โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องไม่นำไปขายหรือนำไปหารายได้จากโปรแกรมนั้น หรือควรอ่านข้อกำหนดของโปรแกรมนั้นให้ชัดเจนก่อนใช้ เพราะบางครั้งมีข้อจำกัดในการใช้บางอย่าง เช่น ใช้ได้เฉพาะส่วนบุคคล ห้ามใช้ในเชิงพาณิชย์ หากต้องการใช้เชิงพาณิชย์ จะมีเวอร์ชันที่ผู้พัฒนาเตรียมไว้ขาย ซอฟต์แวร์ประเภทนี้ต้องระวังหากใช้ในองค์กร ควรจะศึกษาไลเซนต์ให้ดีเสียก่อน

Home page

คือคำที่ใช้เรียกหน้าแรกของเว็บไซต์ โดยเป็นทางเข้าหลักของเว็บไซต์ เมื่อเปิดเว็บไซต์นั้นขึ้นมา โฮมเพจ ก็จะเปรียบเสมือนกับเป็นสารบัญและคำนำที่เจ้าของเว็บไซต์นั้นได้สร้างขึ้น เพื่อใช้ประชาสัมพันธ์องค์กรของตน นอกจากนี้ ภายในโฮมเพจก็อาจมีเอกสารหรือข้อความที่เชื่อมโยงต่อไปยังเว็บเพจอื่นๆอีกด้วย
Internet

อินเทอร์เน็ตคือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อกันเป็นจำนวนมากครอบคลุมไปทั่วโลกโดยอาศัยโครงสร้างระบบสื่อสารโทรคมนาคมเป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยนข้อมูล มีการประยุกต์ใช้งานหลากหลายรูปแบบ อินเทอร์เน็ตเป็นทั้งเครือข่ายของคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายของเครือข่าย เพราะอินเทอร์เน็ตประกอบด้วยเครือข่ายย่อยเป็นจำนวนมากต่อเชื่อมเข้าด้วยกันภายใต้มาตรฐานเดียวกันจนเป็นสังคมเครือข่ายขนาดใหญ่ อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายสาธารณะที่ไม่มีผู้ใดเป็นเจ้าของ ทำให้การเข้าสู่เครือข่ายเป็นไปได้อย่างเสรีภายใต้กฎเกณฑ์บางประการที่กำหนดขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและวุ่นวายจากการเชื่อมต่อจากเครือข่ายทั่วโลก

Server

คือ เครื่องคอมพิวเตอร์หรือระบบปฏิบัติการหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ทำหน้าที่ให้บริการอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง แก่เครื่องคอมพิวเตอร์หรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่เป็นลูกข่ายในระบบเครือข่าย  Server

World Wide Web

บริการที่ต้องใช้โปรแกรม Web Browser เช่น FireFox, Netscape, Internet Explorer, Opera หรือ Neoplanet เพื่อเปิดดูข้อมูลจากเว็บไซต์ (Website) หรือโฮมเพจ (Homepage) จะได้ข้อมูลในลักษณะเป็นตัวอักษร ภาพ เสียง และภาพเคลื่อนไหว ในลักษณะสื่อผสม รวมทั้งการสั่งประมวลผล และตอบสนองแบบอินเทอร์แอ็กทีฟ  บริการนี้ได้รับการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนนำมาใช้งานอย่างหลากหลาย เช่น ชมภาพยนต์ ฟังเพลงออนไลน์ เล่นเกมส์ ค้นข้อมูล ประมวลผลข้อมูลทางธุรกิจ ทำข้อสอบ การส่งเมล ติดต่อซื้อขาย ชำระเงินด้วยบัตรเครดิต หรือส่งโพสท์การ์ด เป็นต้น

 Website

แหล่งความรู้หรือข้อมูลข่าวสารที่ถูกเก็บไว้บนระบบ เน็ตเวิร์ก (Network) ออนไลน์ (Online) ที่เรียกว่า อินเตอร์เน็ต (Internet) ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดบนโลกนี้ ถ้าคอมพิวเตอร์ (Computer) ของคุณได้ถูกเชื่อมต่อไว้กับระบบอินเตอร์เน็ต คุณก็สามารถที่จะเข้าชมเว็บไซต์ผ่านทาง ซอฟต์แวร์ (Software) ที่เรียกว่า เว็บบาวเซอร์ (Web Browser)เราจะเรียกเว็บแต่ละเว็บว่า โฮมเพจ (Homepage) และจะเข้าโฮมเพจผ่านทาง เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web, WWW, W3) เช่นการจะเข้าเว็บไซต์ จ๊ะจ๋า ดอท คอม เราก็จะพิมพ์ www.jajar.com ในช่อง address แล้วกด Enter เพื่อเข้าสู่เว็บไซต์ และเรียกชื่อดังกล่าวว่า URL หรือชื่อของเว็บนั่นเอง

Web browser

คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ที่ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่จัดเก็บในหน้าเวบที่สร้างด้วยภาษาเฉพาะ เช่น ภาษาเอชทีเอ็มแอล (HTML) ที่จัดเก็บไว้ที่ระบบบริการเว็บหรือเว็บเซิร์ฟเวอร์ หรือระบบคลังข้อมูลอื่น ๆ โดยโปรแกรมค้นดูเว็บเปรียบเสมือนเครื่องมือในการติดต่อกับเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่เรียกว่าเวิลด์ไวด์เว็บ

Hypertext

คือ ข้อความ หรือกลุ่มของข้อความที่ถูกเชื่อมโยงเข้าด้วยกัน โดยมีการนำเสนอแบบปฏิสัมพันธ์ ด้วยการนำข้อความที่ใช้มาเป็นจุดเชื่อมโยง ซึ่งจะปรากฏในลักษณะที่เด่นกว่าข้อความอื่น เช่น การขีดเส้นใต้ การเน้นด้วยสี ตัวหนา หรือตัวเลือก เป็นต้น โดยเมื่อเราใช้เม้าส์คลิกข้อความเหล่านี้ ข้อความที่ถูกเลือกจะเชื่อมโยงไปยังรายละเอียดภายในอื่นๆที่เกี่ยวข้อง